ReadyPlanet.com
dot dot dot
dot
ข้อมูลพื้นฐาน
dot
dot
ข้อมูลบริการประชาชน
dot


สภาพอากาศ
สภาพอากาศ, 03
กมลาไสย สภาพอากาศ www.booked.net/
+27

สูง: +27° ต่ำ: +26°

ความชื้น: 88%

ลม: SW - 18 KPH

กรุงเทพมหานคร สภาพอากาศ
+29

สูง: +29° ต่ำ: +29°

ความชื้น: 72%

ลม: SW - 24 KPH

แม่สาย สภาพอากาศ
+26

สูง: +26° ต่ำ: +24°

ความชื้น: 94%

ลม: ESE - 1 KPH

เบตง สภาพอากาศ
+25

สูง: +25° ต่ำ: +23°

ความชื้น: 82%

ลม: W - 2 KPH



dot
ITA 2020 Open to Transparency เปิดประตูสู่ความโปร่งใส

 

 

 ภาษีโรงเรือนและที่ดิน

ภาษีโรงเรือนและที่ดิน

                หมายถึง  ภาษีที่จัดเก็บจากโรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้างอย่างอื่น ๆ  กับที่ดินที่ใช้ประโยชน์ต่อเนื่องกับโรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้าง

                ทรัพย์สินที่ต้องเสียภาษีโรงเรือนและที่ดิน  ได้แก่  โรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้าง  และที่ดินซึ่งใช้ต่อเนื่องกับโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างนั้น  และในปีที่ผ่านมาได้มีการใช้ประโยชน์ทรัพย์สินนั้น  เช่น  ให้เช่า  ใช้เป็นที่ทำการค้าขาย  ที่ไว้สินค้า  ที่ประกอบอุตสาหกรรม  ให้ญาติ  บิดา  มารดา  บุตร  หรือผู้อื่นอยู่อาศัยหรือใช้ประกอบกิจการอื่น ๆ  เพื่อหารายได้และไม่เข้าข้อยกเว้นตามกฎหมาย

ทรัพย์สินที่ได้รับการยกเว้นภาษีไม่ต้องเสียภาษีโรงเรือนและที่ดิน  ได้แก่

1.               พระราชวังอันเป็นส่วนของแผ่นดิน

2.               ทรัพย์สินของรัฐบาลที่ใช้ในกิจการของรัฐบาลหรือ

สาธารณะและทรัพย์สินการรถไฟแห่งประเทศไทยที่ใช้ในกิจการของการรถไฟโดยตรง

3.               ทรัพย์สินของโรงพยาบาลสาธารณะ  และโรงเรียน

สาธารณะซึ่งกระทำกิจการที่ใม่ใช่เพื่อเป็นผลกำไรส่วนบุคคล  และใช้ในการรักษาพยาบาลและในการศึกษา

4.               ทรัพย์สินซึ่งเป็นศาสนสมบัติอันใช้เฉพาะในศาสนกิจอย่าง

เดียวหรือเป็นที่อยู่ของสงฆ์

5.               โรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้างอย่างอื่น ๆ ซึ่งปิดไว้ตลอดปี  และ

เจ้าของไม่ได้อยู่เอง  หรือให้ผู้อื่นอยู่  นอกจากคนเฝ้าในโรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้างอย่างอื่น ๆ หรือในที่ดินซึ่งใช้ต่อเนื่องกัน

6.               โรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้างของการเคหะแห่งชาติซึ่งผู้เช่าซื้อ

อยู่อาศัยเอง  และมิได้เป็นที่เก็บสินค้าหรือประกอบอุตสาหกรรม  หรือประกอบกิจการอื่นเพื่อหารายได้

7.               โรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้างอย่างอื่น ๆ ซึ่งเจ้าของอยู่เอง

หรือให้ผู้เฝ้ารักษาและซึ่งมิได้ใช้เป็นที่ไว้สินค้า  หรือประกอบการอุตสาหกรรม

การลดค่าภาษีหรือปลดภาษี

1.               เมื่อปรากฏว่าผู้รับประเมินได้เสียเพราะทรัพย์สินว่างลง

หรือชำรุดต้องซ่อมแซมส่วนสำคัญ

2.               ผู้รับประเมินยื่นคำร้อง

3.               ลดค่าภาษีลงตามส่วนที่เสียหาย  หรือปลดค่าภาษีทั้งหมด

ผู้มีหน้าที่เสียภาษีโรงเรือนและที่ดิน

1.               เจ้าของทรัพย์สิน

2.               เจ้าของโรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้าง  และเจ้าของที่ดินเป็น

คนละเจ้าของ  เจ้าของโรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้างเป็นผู้มีหน้าที่เสียภาษีสำหรับทรัพย์สินนั้นทั้งหมด

ระยะเวลายื่นแบบแสดงรายการทรัพย์สินเพื่อเสียภาษี

                เจ้าของทรัพย์สินต้องยื่นแบบแสดงรายการเพื่อเสียภาษีโรงเรือนและที่ดิน (ภรด.2)  ณ  สำนักงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  ที่โรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้างนั้นตั้งอยู่ภายในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี

ค่าภาษี

1.               ผู้รับประเมินชำระภาษีปีละครั้งตามค่ารายปี

2.               อัตราร้อยละ  12.5  ของค่ารายปี

ค่ารายปี

                ค่ารายปี  หมายถึง  จำนวนเงินซึ่งทรัพย์สินนั้นสมควรให้เช่าได้ในปีหนึ่ง ๆ  กรณีให้เช่าให้ถือค่าเช่าคือค่ารายปีกรณีมีเหตุ

-                    ค่าเช่ามิใช่จำนวนอันสมควร

-                    หากค่าเช่าไม่ได้  เนื่องจากดำเนินกิจการเองด้วยเหตุ

ประการอื่น  ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจประเมินค่ารายปีตามหลักเกณฑ์ที่รัฐมนตรีว่าด้วยกระทรวงมหาดไทยกำหนด

 

หลักฐานที่ใช้ประกอบการเสียภาษี

1.               กรณีเป็นการเสียภาษีโรงเรือนและที่ดินรายใหม่  เช่น

1)              สำเนาทะเบียนบ้าน/บัตรประจำตัวประชาชนของผู้มี

หน้าที่เสียภาษี

2)              สำเนาโฉนดที่ดิน/สัญญาซื้อขายโรงเรือน

3)              สัญญาเช่าโรงงาน/สัญญาเช่าที่ดิน

4)              ทะเบียนพาณิชย์/ทะเบียนการค้า/ทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม

5)              ใบอนุญาตปลูกอาคาร

6)              หนังสือรับรองห้างหุ้นส่วน/บริษัท-งบดุล

7)              ใบอนุญาตตั้งหรือประกอบกิจการโรงงาน

8)              ใบอนุญาตสะสมอาหารหรือใบอนุญาตประกอบกิจการค้า

9)              หลักฐานอื่น ๆ ที่แสดงการเริ่มใช้ประโยชน์ของทรัพย์สิน

10)        แผนที่ตั้งของที่ดินและโรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้างที่เสียภาษี

11)        หนังสือมอบอำนาจ  (กรณีผู้อื่นมายื่นแบบ  ภรด.2  แทน)

12)        ในกรณีที่โรงเรือนมีผู้ถือกรรมสิทธิ์ร่วมลงลายมือชื่อ 

ภรด.2  ในฐานะผู้รับประเมินทุกคน  หรือจะมอบอำนาจให้คนใดคนหนึ่งก็ได้  การมอบต้องทำเป็นหนังสือและปิดแสตมป์กฎหมาย

2.               กรณีเป็นผู้เสียภาษีรายเก่าที่เคยเสียภาษีโรงเรือนและที่ดินมาแล้ว

ขั้นตอนในการชำระภาษี

1)              ผู้มีหน้าที่เสียภาษีโรงเรือนและที่ดิน  ยื่นแบบแสดงรายการ

ทรัพย์สินเสียภาษีโรงเรือนและที่ดินพร้อมด้วยหลักฐาน  ณ  สำนักงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ทรัพย์สินนั้นตั้งอยู่

2)              พนักงานเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบความสมบูรณ์ขอ

แบบแสดงรายการภาษีโรงเรือนและที่ดิน

3)              พนักงานเจ้าหน้าที่ประเมินค่ารายปีและค่าภาษีที่จะต้องเสีย

4)              พนักงานเก็บภาษีแจ้งประเมิน (ภรด.8)  ให้ผู้มีหน้าที่เสียภาษี

ทราบว่าจะต้องเสียภาษีเป็นจำนวนเงินเท่าใด

5)              ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเมื่อได้รับแจ้งการประเมินแล้วจะต้องนำ

เงินค่าภาษีไปชำระภายใน  30  วัน  นับแต่วันที่ได้รับแจ้งการประเมิน  มิฉะนั้นจะต้องเสียเงินเพิ่ม

เงินเพิ่ม

                ผู้มีหน้าที่เสียภาษีโรงเรือนและที่ดินเมื่อได้รับแจ้งการประเมินแล้วจะต้องนำเงินค่าภาษีไปชำระภายใน  30  วันนับถัดจากวันที่ได้รับแจ้งประเมิน  มิฉะนั้นจะต้องเสียเงินเพิ่ม  ดังนี้

1.               ถ้าชำระไม่เกิน  1  เดือน  นับแต่วันพ้นกำหนดให้เสียเพิ่มร้อยละ 

2.5  ของภาษีที่ค้าง

2.               ถ้าเกิน  1  เดือน  แต่ไม่เกิน  2  เดือน  ให้เพิ่มร้อยละ  5  ของค่า

ภาษีที่ค้าง

3.               ถ้าเกิน  2  เดือน  แต่ไม่เกิน  3  เดือน  ให้เพิ่มร้อยละ  7.5 ของค่า

ภาษีที่ค้าง

4.               ถ้าเกิน  3  เดือน  แต่ไม่เกิน  4  เดือน  ให้เพิ่มร้อยละ  10  ของค่า

ภาษีที่ค้าง

การยึดอายัดทรัพย์สินของผู้ซึ่งค้างชำระภาษี

                ถ้าไม่มีการชำระค่าภาษีและเงินเพิ่มภายใน  4  เดือน  ให้ผู้บริหารท้องถิ่นมีอำนาจออกคำสั่งเป็นหนังสือให้ยึดหรือขายทอดตลาดทรัพย์สินของผู้ซึ่งค้างชำระภาษี  เพื่อนำเงินเป็นค่าภาษี  เงินเพิ่ม  ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายโดยต้องให้ศาลสั่งหรือออกหมายยึด

                วิธีการยึด  อายัด  หรือขายทอดตลาดทรัพย์สินให้ปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวีพิจารณาความแพ่งโดยอนุโลม

บทกำหนดโทษ

1.               ผู้ใดละเลยไม่แสดงข้อความในแบบพิมพ์  เพื่อแจ้งรายการ

ทรัพย์สินตามความเป็นจริง  ตามความรู้เห็นของตนให้ครบถ้วน  และรับรองความถูกต้องของข้อความดังกล่าวพร้อมทั้งลงวันที่  เดือน  ปี  และลงลายมือชื่อของตนกำกับไว้  เว้นแต่เป็นเหตุสุดวิสัยต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองร้อยบาท

2.               ผู้ใดละเลยไม่ปฏิบัติตามหมายเรียกของพนักงานเจ้าหน้าที่  ไม่

แจ้งรายการเพิ่มเติมรายละเอียดยิ่งขึ้นเมื่อเรียกร้อง  ไม่นำพยานหลักฐานมาแสดงหรือไม่ตอบคำถามเมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ซักถาม  ผู้รับประเมินในเรื่องใบแจ้งรายการ  ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าร้อยบาท

3.               ผู้ใดยื่นข้อความเท็จ  หรือตอบคำถามด้วยถ้อยคำอันเป็นเท็จ 

หรือนำพยานหลักฐานเท็จมาแสดงเพื่อหลีกเลี่ยงการคำนวณค่ารายปีแห่งทรัพย์สินของตนตามที่ควรก็ดี  หรือโดยความเท็จโดยเจตนาละเลย  โดยฉ้อโกงโดยอุบาย  โดยวิธีการอย่างหนึ่งอย่างใดทั้งสิ้นของตนตามที่ควรก็ดี  ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน  6  เดือน  ปรับไม่เกิน  500  บาท  หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

 

 

 

 

 

 

 

พิมพ์โดย  นางสาวคำจันทร์   อินทร์โสภา

                     เจ้าพนักงานจัดเก็บรายได้

 

ภาษีโรงเรือนและที่ดิน

 

 

 

 

 

 

 

ส่วนการคลังองค์การบริหารส่วนตำบลกมลาไสย

งานพัฒนารายได้

โทร. / Fax.0-4383-1411  ต่อ  14


ภาษีป้าย

1.               ป้ายที่ต้องเสียภาษี

1.1         ป้ายที่ต้องเสียภาษีป้าย  ได้แก่  ป้ายแสดงชื่อ  ยี่ห้อ  หรือ

เครื่องหมายที่ใช้ในการประกอบการค้า  หรือประกอบกิจการอื่นเพื่อหารายได้  ไม่ว่าจะแสดงหรือโฆษณาไว้ที่วัตถุใด ๆ  ด้วยอักษร  ภาย  หรือเครื่องหมายที่เขียน  แกะ  สลัก  จารึก  หรือทำให้ปรากฏด้วยวิธีใด ๆ

1.2 ไม่เป็นป้ายที่ได้รับการยกเว้นภาษีป้าย

         2.  ป้ายที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีป้าย  ได้แก่

                        ป้ายที่แสดงไว้  ณ  โรงมหรสพและบริเวณของโรงมหรสพ

นั้นเพื่อโฆษณามหรสพ

2.2  ป้ายที่แสดงไว้ที่สินค้า  หรือสิ่งห่อหุ้มหรือบรรจุสินค้า

2.3  ป้ายที่แสดงไว้ในบริเวณงานที่จัดขึ้นเป็นครั้งคราว

2.4  ป้ายที่แสดงไว้ที่คนหรือสัตว์

2.5  ป้ายที่แสดงไว้ภายในอาคารที่ใช้ประกอบการค้า  หรือประกอบ

กิจการอื่นหรือภายในอาคารซึ่งเป็นที่รโหฐาน  ทั้งนี้เพื่อหารายได้  และแต่ละป้ายมีพื้นที่ไม่เกินที่กำหนดในกฎกระทรวง(ฉบับที่  8  พ.ศ.  2542)  กำหนดว่าต้องเป็นป้ายที่มีพื้นที่ไม่เกินสามตารางเมตร  มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่  21  พฤษภาคม  2542  แต่ไม่รวมถึงป้ายตามกฎหมายว่าด้วยการพาณิชย์

2.6          ป้ายของราชการส่วนกลาง  ราชการส่วนภูมิภาคหรือราชการ

ส่วนท้องถิ่นตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน

2.7         ป้ายขององค์การที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์กร

ของรัฐบาล  หรือตามกฏหมายว่าด้วยการนั้น ๆ และหน่วยงานที่นำรายได้ส่งรัฐ

2.8         ป้ายของธนาคารแห่งประเทศไทย  ธนาคารออมสิน 

ธนาคารอาคารสงเคราะห์  ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์  และบริษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย

2.9         ป้ายของโรงเรียนเอกชนตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชนหรือ

สถาบันอุดมศึกษาเอกชนนั้น

2.10   ป้ายของผู้ประกอบการเกษตร  ซึ่งค้าผลผลิตอันเกิดจากการเกษตร

ของตน

2.11   ป้ายของวัดหรือผู้ดำเนินกิจการเพื่อประโยชน์แก่การศาสนา 

หรือการกุศลสาธารณะโดยเฉพาะ

2.12   ป้ายของสมาคมหรือมูลนิธิ

2.13   ป้ายที่กำหนดในกฎกระทรวง

               กฎกระทรวง  ฉบับที่  2  พ.ศ.2535  ออกตามความในพระราช

บัญญัติภาษีป้าย  พ.ศ.2510  กำหนดป้ายที่ได้รับการยกเว้นภาษีป้าย  คือ

               (1)  ป้ายที่แสดงหรือติดตั้งไว้ที่รถยนต์ส่วนบุคคล  รถจักรยานยนต์  รถบดถนนหรือรถแทรกเตอร์

(2)  ป้ายที่ติดตั้งหรือแสดงไว้ที่ล้อเลื่อน

(3)  ป้ายที่ติดตั้งหรือแสดงไว้ที่ยานพาหนะนอกเหนือจาก (1)  และ (2) โดยมีพื้นที่ไม่เกินห้าร้อยตารางเซนติเมตร

3                  ผู้มีหน้าที่เสียภาษีป้าย  ได้แก่

                        เจ้าของป้าย

                        ในกรณีไม่มีผู้อื่นยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้าย  หรือเมื่อ

พนักงานเจ้าหน้าที่ไม่อาจหาตัวเจ้าของป้ายนั้นได้  ให้ถือว่าผู้ครอบครองป้ายนั้นเป็นผู้มีหน้าที่เสียภาษีป้าย  ถ้าไม่อาจหาตัวผู้ครอบครองป้ายนั้นได้ให้ถือว่าเจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคาร  หรือที่ดินที่ป้ายนั้นติดตั้งหรือแสดงอยู่เป็นผู้มีหน้าที่เสียภาษีป้ายตามลำดับ

4.  ระยะเวลาการยื่นแบบแสดงรายการเพื่อเสียภาษีป้าย

                4.1  เจ้าของป้ายที่มีหน้าที่เสียภาษีป้ายต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้าย (ภป.1)  ภายในเดือนมีนาคมของทุกปี

                4.2  ในกรณีที่ติดตั้งหรือแสดงป้ายภายหลังเดือนมีนาคม  หรือติดตั้งหรือแสดงป้ายใหม่แทนป้ายเดิม  หรือเปลี่ยนแปลงแก้ไขป้ายอันเป็นเหตุให้ต้องเสียภาษีป้ายเพิ่มขึ้น  ให้เจ้าของป้ายยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้ายภายใน  15  วัน  นับแต่วันติดตั้งหรือแสดงป้าย  หรือนับแต่วันเปลี่ยนแปลงแก้ไขแล้วแต่กรณี

5.  การคำนวณพื้นที่ป้าย  อัตราค่าภาษีป้ายและการคำนวณภาษีป้าย

     5.1  การคำนวณพื้นที่ป้าย

               

                5.1.1  ป้ายที่มีขอบเขตกำหนดได้

                          ส่วนที่กว้างที่สุด X ส่วนที่ยาวที่สุดของขอบเขตป้าย

5.1.2 ป้ายที่ไม่มีขอบเขตกำหนดได้

ถือตัวอักษร  ภาพ  หรือเครื่องหมายที่อยู่ริมสุดเป็นขอบเขตเพื่อกำหนด  ส่วนที่กว้างที่สุด  ยาวที่สุดแล้วคำนวณตาม 5.1.1

                5.1.3  คำนวณพื้นที่เป็นตารางเซนติเมตร

    5.2  อัตราภาษีป้าย  แบ่งเป็น  3  อัตรา  ดังนี้

                1)  อักษรไทยล้วน  ให้คิดอัตรา  3  บาทต่อห้าร้อยตารางเซนติเมตร

                2)  อักษรไทยปนกับอักษรต่างประเทศ  ภาพ  เครื่องหมายอื่น  ให้คิดอัตรา  20  บาทต่อห้าร้อยตารางเซนติเมตร

                3)  ป้ายดังต่อไปนี้  ให้คิดอัตรา  40  บาทต่อห้าร้อยตารางเซนติเมตร

                     ก.  ป้ายที่ไม่มีอักษรไทย  ไม่ว่าจะมีภาพหรือเครื่องหมายใดหรือไม่

                     ข.  อักษรไทยบางส่วนหรือทั้งหมดอยู่ใต้  หรือต่ำกว่าอักษรต่างประเทศ

                4)  ป้ายที่เปลี่ยนแปลงแก้ไขพื้นที่ป้าย  ข้อความภาพ  หรือเครื่องหมายบางส่วนในป้ายได้เสียภาษีแล้วเป็นเหตุให้ต้องเสียภาษีป้ายเพิ่มขึ้น  ให้คิดอัตราตาม (1) (2) และ(3)  แล้วแต่กรณี  และให้เสียภาษีเฉพาะเงินภาษีที่เพิ่มขึ้น

                5)  ป้ายใดเสียต่ำกว่า  200  บาท  ให้เสีย  200  บาท

6.  หลักฐานที่ใช้ประกอบการเสียภาษีป้าย

                เพื่อความสะดวกในการเสียภาษีให้ผู้มีหน้าที่ชำระภาษีนำหลักฐานประกอบการยื่นแบบแสดงรายการเพื่อเสียภาษีป้าย (ภป.1)  เท่าที่จำเป็น  ดังนี้

6.1         กรณีป้ายที่ติดตั้งใหม่  ผู้มีหน้าที่เสียภาษีป้ายที่ติดตั้งใหม่  ได้แก่

1)              บัตรประจำตัวประชาชน

2)              สำเนาทะเบียนบ้าน

3)              ทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม

4)              หนังสือรับรองหุ้นส่วนบริษัท

5)              ใบอนุญาตติดตั้งป้ายหรือใบเสร็จรับเงินจากร้านทำป้าย

6.2  กรณีป้ายรายเก่า  ผู้มีหน้าที่เสียภาษีป้ายที่เคยยื่นแบบแสดงรายการ

เพื่อเสียภาษีป้ายไว้แล้ว  ควรนำใบเสร็จรับเงินค่าภาษีป้ายครั้งก่อนมาแสดงด้วย

7.  ขั้นตอนการชำระภาษี

                7.1  ผู้มีหน้าที่ต้องเสียภาษีป้ายยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้าย (ภป.1)  พร้อมด้วยหลักฐาน

                7.2  พนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการเป็น  2  กรณี  ดังนี้

                       1)  กรณีผู้เสียภาษีประสงค์จะชำระภาษีในวันที่ยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีป้าย  เจ้าหน้าที่ตรวจสอบและประเมินภาษีป้ายได้ทันที  ให้แจ้งผู้เสียภาษีป้ายว่าจะต้องเสียภาษีเป็นจำนวนเท่าใด

       2)  กรณีผู้เสียภาษีป้ายไม่พร้อมจะชำระภาษีในวันยื่นแบบแสดง

รายการเสียภาษีป้าย  พนักงานแจ้งหนังสือประเมิน (ภป.3)  แจ้งจำนวนเงินภาษีที่จะต้องชำระแก่ผู้เสียภาษี

7.3  ผู้เสียภาษีต้องมาชำระเงินค่าภาษีป้าย  ภายใน  15  วัน  นับแต่วันที่

ได้รับแจ้งการประเมิน  มิฉะนั้นจะมีเงินเพิ่ม

7.4  การชำระภาษีป้าย

เจ้าของป้ายมีหน้าที่ชำระภาษีป้ายเป็นรายปี  ยกเว้นป้ายที่แสดงปีแรก

(1)          ระยะเวลาภายใน  15  วันนับถัดจากวันที่ได้รับแจ้งการประเมิน

(2)          สถานที่ชำระภาษี

  -  สถานที่ที่ได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้ายไว้

                -  หรือสถานที่อื่นที่พนักงานเจ้าหน้าที่กำหนด

                      (3)  การชำระภาษีวิธีอื่น

                                -  ธนาณัติ  หรือตั๋วแลกเงินของธนาคารสั่งจ่ายส่วนท้องถิ่น

                                -  ส่งโดยไปรษณีย์ลงทะเบียน

                                -  ส่งไปยังสถานที่ตาม (2)

                      (4)  การผ่อนชำระหนี้

                                1.  ภาษีป้าย  3,000  บาทขึ้นไป

                                2.  ผ่อนชำระเป็น  3  งวด  เท่า ๆ กัน

                                3.  แจ้งความจำนงเป็นหนังสือก่อนครบกำหนดชำระหนี้

8.  เงินเพิ่ม

                8.1  ไม่ยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้ายภายในเวลาที่กำหนด  ให้เสียเงินเพิ่มร้อยละสอบของค่าภาษีป้าย  เว้นแต่กรณีที่เจ้าของป้ายได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้ายก่อนที่พนักงานเจ้าหน้าที่จะได้แจ้งให้ทราบถึงการละเว้นนั้นให้เสียเงินเพิ่มร้อยละห้าของค่าภาษีป้าย

                8.2  ยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้ายโดยไม่ถูกต้องทำให้จำนวนเงินที่จะต้องเสียภาษีป้ายลดน้อยลงให้เสียเงินเพิ่มร้อยละสิบของค่าภาษีป้ายที่ประเมินเพิ่มเติม

                8.3  ไม่ชำระภาษีป้ายภายในเวลาที่กำหนดให้เสียเงินเพิ่มร้อยละสองต่อเดือนของค่าภาษีป้าย  เศษของเดือนให้นับเป็นหนึ่งเดือน  ทั้งนี้ไม่ให้นำเงินเพิ่มตาม 8.1  และ  8.2  มาคำนวณเป็นเงินเพิ่มตามข้อนี้ด้วย

9.  บทกำหนดโทษ

                9.1  ผู้ใดแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ  ให้ถ้อยคำเท็จ  หรือตอบคำถามด้วยถ้อยคำอันเป็นเท็จ  หรือนำพยานหลักฐานเท็จมาแสดงเพื่อหลีกเลี่ยง  หรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียภาษีป้าย  ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1  ปี หรือปรับ ตั้งแต่  5,000  บาท  ถึง  50,000  บาท

                9.2  ผู้ใดไม่ยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้ายต้องระวางโทษปรับตั้งแต่

5,000  บาท  ถึง  50,000  บาท

                9.3  ผู้ใดไม่แจ้งการรับโอนป้ายหรือไม่แสดงรายการเพื่อเสียภาษีป้ายไว้  ณ  ที่เปิดเผยในสถานประกอบการ  ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่  1,000  บาท ถึง  10,000  บาท

                9.4  ผู้ใดขัดขวางการปฏิบัติงานของพนักงานเจ้าหน้าที่  หรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่  ซึ่งสั่งให้มาให้ถ้อยคำหรือให้ส่งบัญชี  หรือเอกสารเกี่ยวกับกับป้ายมาตรวจสอบภายในกำหนดเวลาอันสมควร  ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน  6  เดือน  หรือปรับตั้งแต่  1,000  บาท  ถึง  20,000  บาท  หรือทั้งจำทั้งปรับ

10.  การอุทธรณ์การประเมิน

                เมื่อผู้เสียภาษีได้รับแจ้งการประเมิน  (ภป.3)  แล้วเห็นว่าการประเมินนั้นไม่ถูกต้อง  มีสิทธิ์อุทธรณ์การประเมินต่อผู้บริหารท้องถิ่น  หรือผู้ได้รับมอบหมายโดยต้องยื่นอุทธรณ์ภายใน  30  วัน  นับแต่วันที่ได้รับแจ้งการประเมิน

 

 

 

 

ภาษีป้าย

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ส่วนการคลังองค์การบริหารส่วนตำบลกมลาไสย

งานพัฒนารายได้

โทร. / Fax.0-4383-1411  ต่อ  14



ITA 2020 Open to Transparency เปิดประตูสู่ความโปร่งใสITA 2020article

 ITA 2020 Open to Transparency เปิดประตูสู่ความโปร่งใส

หน้า 1/1
1
[Go to top]